School & Me Story : สิ่งที่ผมเป็นกับสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลง
ชีวิตของคนเราแน่นอนต้องเคยพบเจอกับสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลงจริงๆ เปรียบเหมือนทางแยก ที่สามารถเปลี่ยนแปลงให้เราไปในทางที่ดีก็ได้ หรือไปในทางที่ไม่ดีก็ได้ เพียงแต้เราคงต้องเตรียมตัวเผชิญกับสิ่งใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต การเปลี่ยนแปลงในบางครั้งก็เป็นถ้าเป็นสิ่งที่ดีกับตัวของเรา ก็จะทำให้เราทำแล้วเกิดความสุข สนุกที่ได้ทำ แต่กลับกันถ้าการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ดีกับตัวของเรา ไม่เข้ากับตัวของเรา สิ่งที่เราทำสิ่งที่เราปฏิบัติก็อาจจะไม่ดีเลยก็ได้ เช่นเดียวกับตัวของผมก็ได้เจอทางแยกหรือการเปลี่ยนแปลงมามากพอสมควร และก็มีการเปลี่ยนแปลงหนึ่งที่อยากจะมานำเสนอให้ทุกคนได้อ่านกันครับ.......
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวของผมในตอนนีีโดยที่ผมเองก็ยังไม่ทราบและยังไม่รู้เลยว่าจะเกิดผลดีหรืออาจจะไม่ดีก็ได้ นั้นก็คือการได้มีโอกาสมาสอนวิชาคณิตศาสตร์ - -" ในระดับประถมศึกษาปีที่ 3 ถ้าใครได้อ่านบล็อกก่อนๆคงทราบดีว่าผมเป็นครูพลศึกษาและสุขศึกษานะ(แล้วให้ผมมาสอนเลขเด็กคงจะเจริญละ55) ทำไมผมจึงมาสอนเลขผมคงต้องเล่าย้อนไปตอนเทอมสองเมื่อปีที่แล้ว.........
ในตอนนั้นผมก็ยังเป็นครูสอนพลศึกษาและสุขศึกษาอย่างเต็มตัวโดยที่รับผิดชอบการสอนพลศึกษาตั้งแต่ปฐมวัย 1-3 และประถมศึกษาตั้งแต่ 1-6 สุขศึกษาสอนในช่วงชั้นที่ 1 คือระดับประถมศึกษาปีที่ 1-3 การสอนในทุกๆวันในตอนนั้นผมอยากจะบอกว่าแม้จะสอนเด็กที่เป็นเด็กเล็กๆ แต่ก็สนุกมากๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมได้เจอะเจอมันเหมือนสอนผมให้ผมอยากที่จะพัฒนาการสอนในวิชาชีพที่ผมเรียนมาให้ดีขึ้นทุกวัน ทุกวันที่ผมสอนล้วนที่จะมีความสุขเพราะผมได้สอนในสิ่งที่ผมรักที่ผมชอบ การสอนของผมเลยมักจะเกินเวลาไปบางในบางครั้ง(555ก็มันช่วยไม่ได้กำลังสนุกนิหน่า) การสอนในช่วงนั้นผมพยายามที่จะพัฒนาทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นวิชาพลศึกษาหรือจะเป็นสุขศึกษา สุขศึกษาผมพยายามที่จะปรับใช้เทคโนโลยีให้เข้ามาบทบาทในวิชานี้ให้มากขึ้นเช่น ในเรื่องของการสอนเรื่อง โรคติดต่อ สอนป.3 ผมได้ใช้สื่อการสอนที่เป็นการ์ตูนเรื่องหนึ่งชื่อว่า one upon a time life (นิทานชีวิต) ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้มีประโยชน์อย่างมาก การ์ตูนเรื่องนี้สอนให้เราได้เรียนรู้ถึงระบบภายในร่างกายของเรา ซึ่งถ้าใครไม่รู้จักผมมีคลิปให้ดูครับ (เผื่อเห็นคลิปนี้แล้วจะจำได้ รวมไปถึงถ้าใครสนใจก็ลองหาดูได้ครับ)
โดยในเรื่องนี้ผมอยากจะสอนให้เด็กเห็นก่อนว่าเจ้าเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายอย่างไรและเชื้อโรคจะทำให้ร่างกายของเราเป็นอย่างไร และร่างกายของเราจะสามารถกำจัดเจ้าเชื้อโรคได้อย่างไร ซึ่งสอดคล้องกับบทเรียนที่จะสอนคือเรื่องของโรคติดต่อได้ ซึ่งถ้าเราสอนไปอย่างเดียวเด็กอาจจะไม่เข้าใจและไม่จำ แต่ผมเลือกใช้สื่อที่เหมาะกับเด็ก เลยทำให้เด็กเขาเข้าใจได้ง่ายและยังดูแล้วสนุก โดยในตอนนี้เด็กๆหลายๆคนยังอยากที่จะดูต่ออีก^^ นี่คือส่วนหนึ่งที่ผมได้พยายามพัฒนาการสอนในสิ่งที่ผมรัก ผมทำด้วยคนที่รักต่อวิชาชีพ ทำแล้วมันมีความสุขได้เห็นเด็กๆเกิดรอยยิ้มเกิดความสนุกสนาน ผมสอนต่อมาเรื่อยๆอย่างมีความสุขจนมีวันหนึ่งครูวิชาการที่โรงเรียนซึ่งท่านสอนคณิตศาสตร์ ป.3 นั้นเองมีโจทย์บางข้อที่ท่านไม่เข้าใจจึงมาถามผม ผมก็ได้อธิบายไป นี่คงเป็นจุดประกายแรกที่ทำให้ ครูที่เป็นหัวหน้าฝ่ายวิชาการเห็นแววว่าผมน่าจะสอนเลขได้(ซึ่งถ้าคิดย้อนไปตอนนั้นไม่น่าเลย55) ต่อมา ผมได้มีโอกาสได้เข้าไปติวเลขป.3 อาทิตย์ละ1คาบเพื่อให้เด็กได้เกิดการคิด การวิเคราะห์ การตีโจทย์ได้ เพราะเด็กระดับป.3 จะต้องสอบ NT ( National Test คือ การสอบประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพผู้เรียน ตรวจสอบกำกับดูแล และพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ) ซึ่งเป็นการสอบที่เด็กระดับ ป.3 จะต้องสอบทุกคน เพราะอะไรผมถึงได้โอกาสมาติวก็เพราะ ครูวิชาการท่านเดิมได้บอกครูใหญ่ว่าผมพอที่จะติวได้ ทำได้ ครูใหญ่เลยให้ผมได้ลองเข้าไปติวทุกอาทิตย์ๆละครั้ง........... "นี่คงเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ผมได้มาสอนวิชาคณิตศาสตร์ในวันนี้"
ชีวิตของคนเราแน่นอนต้องเคยพบเจอกับสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลงจริงๆ เปรียบเหมือนทางแยก ที่สามารถเปลี่ยนแปลงให้เราไปในทางที่ดีก็ได้ หรือไปในทางที่ไม่ดีก็ได้ เพียงแต้เราคงต้องเตรียมตัวเผชิญกับสิ่งใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต การเปลี่ยนแปลงในบางครั้งก็เป็นถ้าเป็นสิ่งที่ดีกับตัวของเรา ก็จะทำให้เราทำแล้วเกิดความสุข สนุกที่ได้ทำ แต่กลับกันถ้าการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ดีกับตัวของเรา ไม่เข้ากับตัวของเรา สิ่งที่เราทำสิ่งที่เราปฏิบัติก็อาจจะไม่ดีเลยก็ได้ เช่นเดียวกับตัวของผมก็ได้เจอทางแยกหรือการเปลี่ยนแปลงมามากพอสมควร และก็มีการเปลี่ยนแปลงหนึ่งที่อยากจะมานำเสนอให้ทุกคนได้อ่านกันครับ.......

ในตอนนั้นผมก็ยังเป็นครูสอนพลศึกษาและสุขศึกษาอย่างเต็มตัวโดยที่รับผิดชอบการสอนพลศึกษาตั้งแต่ปฐมวัย 1-3 และประถมศึกษาตั้งแต่ 1-6 สุขศึกษาสอนในช่วงชั้นที่ 1 คือระดับประถมศึกษาปีที่ 1-3 การสอนในทุกๆวันในตอนนั้นผมอยากจะบอกว่าแม้จะสอนเด็กที่เป็นเด็กเล็กๆ แต่ก็สนุกมากๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมได้เจอะเจอมันเหมือนสอนผมให้ผมอยากที่จะพัฒนาการสอนในวิชาชีพที่ผมเรียนมาให้ดีขึ้นทุกวัน ทุกวันที่ผมสอนล้วนที่จะมีความสุขเพราะผมได้สอนในสิ่งที่ผมรักที่ผมชอบ การสอนของผมเลยมักจะเกินเวลาไปบางในบางครั้ง(555ก็มันช่วยไม่ได้กำลังสนุกนิหน่า) การสอนในช่วงนั้นผมพยายามที่จะพัฒนาทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นวิชาพลศึกษาหรือจะเป็นสุขศึกษา สุขศึกษาผมพยายามที่จะปรับใช้เทคโนโลยีให้เข้ามาบทบาทในวิชานี้ให้มากขึ้นเช่น ในเรื่องของการสอนเรื่อง โรคติดต่อ สอนป.3 ผมได้ใช้สื่อการสอนที่เป็นการ์ตูนเรื่องหนึ่งชื่อว่า one upon a time life (นิทานชีวิต) ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้มีประโยชน์อย่างมาก การ์ตูนเรื่องนี้สอนให้เราได้เรียนรู้ถึงระบบภายในร่างกายของเรา ซึ่งถ้าใครไม่รู้จักผมมีคลิปให้ดูครับ (เผื่อเห็นคลิปนี้แล้วจะจำได้ รวมไปถึงถ้าใครสนใจก็ลองหาดูได้ครับ)
one upon a time life
โดยในเรื่องนี้ผมอยากจะสอนให้เด็กเห็นก่อนว่าเจ้าเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายอย่างไรและเชื้อโรคจะทำให้ร่างกายของเราเป็นอย่างไร และร่างกายของเราจะสามารถกำจัดเจ้าเชื้อโรคได้อย่างไร ซึ่งสอดคล้องกับบทเรียนที่จะสอนคือเรื่องของโรคติดต่อได้ ซึ่งถ้าเราสอนไปอย่างเดียวเด็กอาจจะไม่เข้าใจและไม่จำ แต่ผมเลือกใช้สื่อที่เหมาะกับเด็ก เลยทำให้เด็กเขาเข้าใจได้ง่ายและยังดูแล้วสนุก โดยในตอนนี้เด็กๆหลายๆคนยังอยากที่จะดูต่ออีก^^ นี่คือส่วนหนึ่งที่ผมได้พยายามพัฒนาการสอนในสิ่งที่ผมรัก ผมทำด้วยคนที่รักต่อวิชาชีพ ทำแล้วมันมีความสุขได้เห็นเด็กๆเกิดรอยยิ้มเกิดความสนุกสนาน ผมสอนต่อมาเรื่อยๆอย่างมีความสุขจนมีวันหนึ่งครูวิชาการที่โรงเรียนซึ่งท่านสอนคณิตศาสตร์ ป.3 นั้นเองมีโจทย์บางข้อที่ท่านไม่เข้าใจจึงมาถามผม ผมก็ได้อธิบายไป นี่คงเป็นจุดประกายแรกที่ทำให้ ครูที่เป็นหัวหน้าฝ่ายวิชาการเห็นแววว่าผมน่าจะสอนเลขได้(ซึ่งถ้าคิดย้อนไปตอนนั้นไม่น่าเลย55) ต่อมา ผมได้มีโอกาสได้เข้าไปติวเลขป.3 อาทิตย์ละ1คาบเพื่อให้เด็กได้เกิดการคิด การวิเคราะห์ การตีโจทย์ได้ เพราะเด็กระดับป.3 จะต้องสอบ NT ( National Test คือ การสอบประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพผู้เรียน ตรวจสอบกำกับดูแล และพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ) ซึ่งเป็นการสอบที่เด็กระดับ ป.3 จะต้องสอบทุกคน เพราะอะไรผมถึงได้โอกาสมาติวก็เพราะ ครูวิชาการท่านเดิมได้บอกครูใหญ่ว่าผมพอที่จะติวได้ ทำได้ ครูใหญ่เลยให้ผมได้ลองเข้าไปติวทุกอาทิตย์ๆละครั้ง........... "นี่คงเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ผมได้มาสอนวิชาคณิตศาสตร์ในวันนี้"
ตอนนี้ทุกคนได้ทราบแล้วว่าจุดประกายการเปลี่ยนแปลงแรกที่ผมได้มาสอนวิชาคณิตศาสตร์เป็นอย่างไร ในตอนหน้าผมจะมาเล่าต่อนะครับว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ จะส่งผลต่อชีวิตของผมอย่างไรบ้างนะครับ จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีหรือเปล่า หรือในทางที่ไม่ดีหรือเปล่า อย่างไร ทางแยกนี้จะส่งผลต่อชีวิตผมอย่างไร มาติดตามต่อในบทความหน้านะครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ^^
No comments:
Post a Comment