School & Me Story : สรุปวิเคราะห์เครื่องมือในวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอก
วิทยานิพนธ์
เรื่อง
การพัฒนาโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาด้วยการเสริิมวิธีการฝึกแบบพลัยโอเมตริกและไอโซเนติค
นายวันชัย บุญรอด
หลักสูตรปริญญาครุศาสตร์ดุษฏีบัณฑิต ภาควิชาพลศึกษา
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
พ.ศ. 2538
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาด้วยการเสริมวิธีการฝึกแบบพลัยโอเมตริกและไอโซคิเนติค โดยวิธีการ 4 ขั้นตอน คือ
1. ศึกษาโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาทีมชาติไทยของสมาคมกรีฑาสมัครเล่นแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
2. สร้างโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาด้วยการเสริมวิธีการฝึกแบบพลัยโอเมตริกและไอโซคิเนติค
3. ศึกษาคุณภาพเชิงประจักษ์ของโปรแกรมที่สร้างขึ้น
4. กลุ่มทำการฝึกตามโปรแกรมของสมาคมกรีฑาฯ อีก 8 กลุ่มเป็นกลุ่มทดลอง โดย 4 กลุ่มแรกฝึกตามโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาด้วยการเสริมวิธีการฝึกแบบพลัยโอเมตริกและอีก 4 กลุ่มที่เหลือฝึกตามโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาด้วยการเสริมวิธีการฝึกแบบพลัยไอโซคิเนติค
ทั้งกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองทั้ง 12 กลุ่มนี้ ทำก่ารฝึกในกิจกรรมการวิ่ง 100 เมตร 200 เมตร ทุ่มน้ำหนักและขว้างจักรก็เช่นเดียวกัน โดยใช้เวลาในการฝึก 12 สัปดาห์ ทำการทดสอบผลของการฝึกหลังการฝึกสัปดาห์ที่ 4 8 และ 12 แล้วนำข้อมูลที่ได้จากการทดสอบมาวิเคราะห์ โดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ความแปรปรวนร่วมแบบทางเดียว และทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธีของตูกี
1.มีหลักการและขั้นตอนในการพัฒนาสื่อและเทคโนโลยีการศึกษาอย่างไร
มีขั้นตอนและวิธีการที่จะพัฒนาโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาอยู่ 4 ขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาทีมชาติไทยของสมาคมกรีฑาสมัครเล่นแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และปรับปรุงโปรแกรม เพื่อให้เหมาะสมกับนักกรีฑาที่เริ่มเล่น
ซึ่งมีขั้้นตอนและวิธีการ ดังนี้
1.1 ศึกษาโปรแกรมการฝึกกล้ามเนื้อโดยวิธีการฝึกด้วยน้ำหนัก
1.2 ศึกษาโปรแกรมการฝึกทักษะกรีฑา
1.3 ศึกษาตารางการฝึก
1.4 ปรับปรุงโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาทีมชาติไทยของสมาคมกรีฑาฯ เพื่อให้เหมาะสมกับนักกรีฑาที่เริ่มเล่น
1.5 นำโปรแกรมการฝึกนักกรีฑา ที่ปรับปรุงจากโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาทีมชาติไทยของสมาคมกรีฑาฯ ไปให้ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 4 คน เพื่อพิจารณาตรวจสอบและให้คำแนะนำ แล้วนำมาปรับปรุง
1.6 นำโปรแกรมที่ปรับปรุงแล้ว ไปให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขั้นตอนที่ 2 สร้างโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาด้วยการเสริมวิธีการฝึกแบบพลัยโอเมตริกและไอโซคิเนติค และศึกษาคุณภาพในเชิงเหมาะสมตามเหตุผล ทฤษฏี และ ความครอบคลุมของเนื้อหา (Logical test) มีขั้นตอนและวิธีการ ดังนี้
2.1 นำโปรแกรมการฝึกนักกรีฑา ในด้านการฝึกกล้ามเนื้อโดยการฝึกด้วยน้ำหนัก เป็นโปรแกรมสชหลักในการสร้างโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาด้วยการปรับลดท่าการฝึกด้วยน้ำหนักที่ฝึกกลุ่มกล้ามเนื้อเดียวกันลง แล้วนำการฝึกแบบพลัยโอเมตริกและไอโซคิเนติคเข้าไปในเสริม เพื่อควบคุมเวลาในการฝึกให้เท่ากันหรือใกล้เคียงกัน
2.2 นำโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาด้วยการเสริมวิธีการฝึกแบบพลัยโอเมตริกและไอโซคิเนติคที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นไปให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาตรวจสอบ
ขั้นตอนที่ 3 การศึกษาคุณภาพเชิงประจักษ์ (Empirical study) ของโปรแกรมที่สร้างขึ้น มีขั้นตอนและวิธีการ ดังนี้
3.1 นำโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาด้วยการเสริมวิธีการฝึกแบบพลัยโอเมตริกและไอโซคิเนติคที่ผูวิจัยสร้างขึ้นไปศึกษานำร่อง (Pilot study) กับกลุ่มเป้าหมาย คือนิสิตชาย ภาควิชาพลศึกษา ที่มิได้เป็นกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 5 คน เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการบริหารจัดการ
3.2 นำปัญหาที่พบมาปรับปรุงแก้ไข เพื่อโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาด้วยการเสริมวิธีการฝึกแบบพลัยโอเมตริกและไอโซคิเนติค
ขั้นตอนที่ 4 ประเมินโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาด้วยการเสริมวิธีการฝึกแบบพลัยโอเมตริกและไอโซคิเนติคที่สร้างขึ้น โดยการนำไปทดลองฝึก และจัดทำคู่มือการใช้โปรแกรม
2. มีหลักในการประเมินสู่เทคโนโลยีทางการศึกษาอย่างไร
เครื่องที่ไว้ใช้ทดสอบความแข็งแรงที่ผู้วิจัยใช้ |
การวิจัยในครั้งนี้ผู้วิจัยได้ใช้โปรแกรมการฝึกนักกรีฑาด้วยวิธีการเสริมการฝึกแบบพลัยโอเมตริกและไอโซคิเนติค และโปรแกรมการฝึกของนักกรีฑาของสมาคม สำหรับใช้ในการฝึกกลุ่มควบคุม ทั้ง 2 อย่างที่กล่าวมาเป็นเครื่องมือที่ผู้วิจัยได้ใช้ในการทำวิจัยในครั้งนี้เพื่อศึกษาสิ่งที่เขาต้องการ หลังจากมีโปรแกรมแล้ว ก็จะต้องมีเครื่องมืออีก 1 อย่างที่บอกถึงการพัฒนาว่าจากโปรแกรมที่เราให้กลุ่มตัวอย่างฝึกตลอด 8 สัปดาห์นั้น จะเกิดการพัฒนาหรือไม่ ผู้วิจัยได้ใช้เครื่องไอโซเนติค ไซเบ๊ก รุ่น 6000 (Cybex 6000 Isokinetic dynamometer) ที่จะใช้ในการทดสอบความแข็งแรง และพลังกล้ามเนื้อ
ผู้วิจัยมีหลักการในการใช้เครื่องมือในการประเมิน มีความละเอียดมากโดยที่ผู้วิจัยจะทำการตรวจสอบเครื่องที่จะใช้ทำการทดสอบทุกครั้ง หลังจากตรรวจสอบเครื่องแล้วก็จะกำหนดอัตราความเร็วของตัวหน่วงแรงตามที่เขากำหนด ก่อนที่จะให้ผู้ทำการทดสอบมาทดสอบก็จะให้อบอุ่นกล้ามเนื้อทุกครั้งและลองให้ทำความคุ้นเคยกับตัวเครื่องทุกครั้งเพื่อที่จะให้ผลที่ออกมาแน่นอน ปราศจากตัวแปรอื่นๆเข้ามาแทรกซ้อน ที่สำคัญทุกครั้งผู้วิจัยจะกำหนดการพักไว้ตลอด เพื่อผลการทดสอบออกมาที่แน่นอนด้วย
การทดสอบที่ผู้วิจัยทำ ผู้วิจัยจะทำการทดลอง ก่อน(Pre test) ระหว่าง(Mid test) และหลัง(Post test) และนำผลที่ได้จากการทดสอบก่อน ระหว่างและหลังการฝึกที่ได้มานำไปวิเคราะห์สรุปผล
3. ผลการนำสื่อและเทคโนโลยีการศึกษามาใช้เป็นอย่างไร
โปรแกรมการฝึกนักกรีฑาด้วยการเสริมวิธีการฝึกแบบพลัยโอเมตริกและไอโซคิเนติคที่สร้างขึ้น มีผลต่อความสามารถในการวิ่ง 200 เมตร ดีกว่าโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาของสมาคมกรีฑาฯ สำหรับความสามารถในการทุ่มน้ำหนักนั้นการฝึกตามโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาของสมาคมกรีฑาฯ ดีกว่าการฝึกตามโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาด้วยการเสริมวิธีการฝึกแบบพลัยโอเมตริกและไอโซคิเนติค และสำหรับการวิ่ง 100 เมตรและขว้างจักร ไม่มีความแตกต่างกัน ระหว่างโปรแกรมการฝึกนักกรีฑาทั้ง 3 โปรแกรม